กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/654
ชื่อเรื่อง: | ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงของสถานีอนามัย ในจังหวัดสุพรรณบุรี |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Factors associated with the hypertension prevention and control of health centers in Suphan Buri Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | พาณี สีตกะลิน ขนิษฐา วัฒนจินดาเลิศ, 2508- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา วรางคณา ผลประเสริฐ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสาธารณสุขศาสตร์--วิทยานิพนธ์ ความดันเลือดสูง--การป้องกันและควบคุม |
วันที่เผยแพร่: | 2550 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยเชิงพรรณนานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง ประกอบด้วย คุณลักษณะประชากร ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง และกระบวนการบริหารงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง (2) การบริหารจัดการสถานีอนามัย (3) ผลการดำเนินงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง (4) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การบริหารจัดการสถานีอนามัยกับผลการดำเนินงาน และ (5) ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงของสถานีอนามัย ในจังหวัดสุพรรณบุรี ปีงบประมาณ 2550 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้รับผิดชอบงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงของสถานีอนามัย จํานวน 174 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ค่าความเพียง 0.93 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษา พบว่า (1) ผู้รับผิดชอบงานส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 38 ปีการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์ทำงานเฉลี่ย 8.8 ปี มีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงในระดับปานกลาง และมีการทำงานตามกระบวนการบริหารงานอยู่ในระดับสูงมากที่สุด (2) สถานีอนามัย มีหมู่บ้านในความรับผิดชอบเฉลี่ย 6 หมู่ จำนวนประชากรในความรับผิดชอบ 4,102 คน มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำเฉลี่ย 3 คน (3) ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง (4) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงาน คือ การทํางานตามกระบวนการบริหารงานป้องกันและควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง ได้แก่ การวางแผน การบริหารงานบุคคล การอำนวยการ และการควบคุมงาน ยกเว้นด้านการจัดองค์การ และ (5) ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานที่พบ ได้แก่ จำนวนบุคลากร ไม่เพียงพอ สื่อสุขศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนมีความล่าช้าหรือไม่เพียงพอ ข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ ผู้บริหารควรส่งเสริมให้ผู้รับผิดชอบงานมีการใช้กระบวนการบริหารงานในการทำงาน และให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้ผู้รับผิดชอบงานมีความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(สาธารณสุขศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/654 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Health-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
108774.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 4.95 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License