Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/674
Title: ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดขอนแก่น
Other Titles: Factors affecting practice behavior about patient advocacy of professional nurses in community hospitals, Khonkaen Province
Authors: นิตยา เพ็ญศิรินภา
จิตรา มณีวงษ์, 2502-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
พูลสุข หิงคานนท์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสาธารณสุขศาสตร์--วิทยานิพนธ์
โรงพยาบาลชุมชน
พยาบาลกับผู้ป่วย--ไทย--ขอนแก่น
สิทธิผู้ป่วย
Issue Date: 2547
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยเชิงอรรถาธิบายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความรู้ ทัศนคติ การรับรู้นโยบายของโรงพยาบาลและการสนับสนุนจากผู้บริหาร และพถุดิกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดขอนแก่น (2) ศึกษาอิทธิพลของปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ การรับรู้นโยบายของโรงพยาบาลและการสนับสนุนจากผู้บริหาร ที่มีต่อพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วย (3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพงานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุกับพยาบาลวิชาชีพงานผู้ป่วยใน ประชากรที่ศึกษา คือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน 20 แห่งในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 364 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบที่มีความเที่ยงในหมวดความรู้ ทัศนคติ และการรับรู้ .75 .85 และ .92 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า (1) พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่ มีความรู้เรื่องการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยอยู่ในระดับมาก ร้อยละ 64.01 มีทัศนคติต่อการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยอยู่ในระดับดี ร้อยละ 94.78 รับรู้ว่าใน องค์กรมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิผู้ป่วยและมีการสนับสนุนจากผู้บริหาร ร้อยละ 68.41 มีพฤติกรรม การปฏิบัติการพยาบาลเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 98.08 (2) การรับรู้นโยบายของโรงพยาบาลและการสนับสนุนจากผู้บริหาร ทัศนคติ ประสบการณ์การทำงาน และหน่วยงานที่ปฏิบัติ สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพ ได้ร้อยละ 38 (R2= 0.38) (3) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพงานผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุแตกต่างจากพยาบาลวิชาชีพงานผู้ป่วยในอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05)
Description: วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(บริหารโรงพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2547
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/674
Appears in Collections:Health-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
86329.pdfเอกสารฉบับเต็ม1.99 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons