Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7088
Title: ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์
Other Titles: Problems and guidelines for basic minimum needs data collecting administration in Nakhonsawan Province
Authors: จีระ ประทีป, อาจารย์ที่ปรึกษา
สุทธิพงษ์ วัดเมือง, 2521-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ --การศึกษาเฉพาะกรณี
Issue Date: 2559
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ (2) เปรียบเทียบปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ การศึกษาครั้งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจประชากรในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 80 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบ ค่าเอฟ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า (1) ปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัด นครสวรรค์ที่สำคัญ คือ ขั้นเตรียมความพร้อม ค่าตอบแทนผู้จัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน ขั้นดำเนินการ ระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบันทึกและประมวลผล ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ยุ่งยากและไม่สะดวกต่อการใช้งาน ขั้นหลังดำเนินการหน่วยงานอื่นไม่ให้ความสำคัญ และไม่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) (2) เปรียบเทียบปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าระดับการศึกษา อายุราชการ ระดับตำแหน่ง และพื้นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนต่างกัน มีความเห็นต่อปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 และ (3) ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ ที่สำคัญ คือ ขั้นเตรียมความพร้อมควรกำหนดค่าจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) เป็นโซนหรือเขตพื้นที่ตามระดับความยากง่ายหรือความหนาแน่นของหมู่บ้าน/ชุมชน ขั้นดำเนินการควรมีระบบ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบันทึกและประมวลผลข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ที่ไม่ยุ่งยาก และสะดวกต่อการใช้งาน ขั้นหลังดำเนินการควรส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ให้กับทุกภาคส่วน ให้เห็นความสำคัญ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ (2) เปรียบเทียบปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ (3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ การศึกษาครั้งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจประชากรในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 80 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบ ค่าเอฟ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า (1) ปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัด นครสวรรค์ที่สำคัญ คือ ขั้นเตรียมความพร้อม ค่าตอบแทนผู้จัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน ขั้นดำเนินการ ระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบันทึกและประมวลผล ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ยุ่งยากและไม่สะดวกต่อการใช้งาน ขั้นหลังดำเนินการหน่วยงานอื่นไม่ให้ความสำคัญ และไม่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) (2) เปรียบเทียบปัญหาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าระดับการศึกษา อายุราชการ ระดับตำแหน่ง และพื้นที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนต่างกัน มีความเห็นต่อปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 และ (3) ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการบริหารการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) จังหวัดนครสวรรค์ ที่สำคัญ คือ ขั้นเตรียมความพร้อมควรกำหนดค่าจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) เป็นโซนหรือเขตพื้นที่ตามระดับความยากง่ายหรือความหนาแน่นของหมู่บ้าน/ชุมชน ขั้นดำเนินการควรมีระบบ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการบันทึกและประมวลผลข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ที่ไม่ยุ่งยาก และสะดวกต่อการใช้งาน ขั้นหลังดำเนินการควรส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ให้กับทุกภาคส่วน ให้เห็นความสำคัญ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7088
Appears in Collections:Manage-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext_153528.pdfเอกสารฉบับเต็ม15.53 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons