กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8995
ชื่อเรื่อง: | วิถีชีวิตของวัยรุ่นชายรักชายที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Life style of homosexual male adolescents studying in higher education institutions |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | นิรนาท แสนสา ธีรกานท์ มูลรังษี, 2532- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา วัลภา สบายยิ่ง |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา-- วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--วิทยานิพนธ์ รักร่วมเพศชาย--ไทย บุรุษ--พฤติกรรมทางเพศ รักร่วมเพศ--ไทย วิถีทางเพศ นักศึกษา--การดำเนินชีวิต |
วันที่เผยแพร่: | 2557 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิถีชีวิตและการปรับตัวของวัยรุ่นชายรักชายในระดับอุดมศึกษา จังหวัดพิษณุโลก โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 9 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง และวิเคราะห์ข้อมูลผลการสัมภาษณ์ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยปรากฏว่า วิถีชีวิตของวัยรุ่นชายรักชายในระดับอุดมศึกษา สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเด็น ดังนี้ (1) ภูมิหลังของสาเหตุการเป็นชายรักชาย พบว่า ผู้ให้ข้อมูลหลักมีความสนิทสนมกับมารดาหรือญาติที่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายหรือมีญาติที่แสดงพฤติกรรมโน้มเอียงทางเพศให้ผู้ให้ข้อมูลหลักได้พบเห็น และผู้ให้ข้อมูลยังมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสังคมปกติและสังคมของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมโน้มเอียงทางเพศเป็นอย่างดี (2) ด้านการยอมรับและความชัดเจนในการเป็นชายรักชาย พบว่า ผู้ให้ข้อมูล เกิดรับรู้ตัวตนครั้งแรกในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นตอนต้น และสามารถยอมรับความเป็นชายรักชายได้ในช่วงมัธยมศึกษา จากการแสวงหาคาตอบในตัวตนของตนเอง และเปิดเผยต่อครอบครัวและสังคมเป็นลำดับต่อมา ซึ่งการยอมรับจากครอบครัวและสังคมนี้ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความคาดหวังในตัวตนของผู้ให้ข้อมูล รวมถึงประสบการณ์ของในแต่ละสังคมและครอบครัว (3) ด้านปัญหาใช้ชีวิต พบว่า ผู้ให้ข้อมูลหลัก มีปัญหาในด้านการศึกษา ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อจิตใจ เนื่องจากต้องการรักษาการยอมรับจากสังคมผ่านการศึกษา (4) การสร้างความสัมพันธ์กับคนรัก พบว่า มีการพบกันครั้งแรกในอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่และได้มีการสร้างความสัมพันธ์เป็นกระบวนการ ซึ่งหากไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์นี้ได้ก็จะเกิดการเลิกรากันในที่สุด และผู้ให้ข้อมูลหลักที่ผ่านการมีคนรักจะผ่านการมีเพศสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน และ (5) มุมมองการเป็นชายรักชาย พบว่า ผู้ให้ข้อมูลหลักไม่มีความเสียใจที่เป็นชายรักชาย แต่ให้ความสาคัญกับการวางตัวและการพัฒนาตนเองเพื่อให้เป็นที่ยอมรับจากสังคม จากผลการวิจัยดังกล่าวสามารถนาไปใช้ในการวางแผน การดำเนินงานเกี่ยวกับชายรักชาย ไม่ว่าจะเป็นในสถานศึกษาหรือในสังคมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการดำเนินชีวิตของชายรักชาย และเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตต่อไป |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (การแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2557 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8995 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Edu-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
154685.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.13 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License